ยกฟ้อง คดียาเสพติด

#ทนายเล่าเรื่อง ยกฟ้อง คดียาเสพติด

ตอนเกิดเหตุไม่ใช่ผู้ร่วมกระทำความผิด แต่โดนออกหมายจับเป็นผู้กระทำความผิด

          เพียงเพราะพักอาศัยในโรงงานที่มีการขนนมไปเรือนจำ

ยกฟ้อง คดียาเสพติด

           #ทนายเล่าเรื่อง ในวันนี้ผมขอหยิบยกกรณีที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ฐานร่วมกันพยายามจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน และฐานร่วมกันนำสิ่งของต้องห้ามเข้ามาในเรือนจำ ว่าเหตุใดศาลฎีกาถึงยกฟ้อง ศาลฎีกามีการวินิจฉัยให้ความเห็นไว้อย่างไรไว้บ้าง มาดูกันได้ครับ

               คดีนี้นายเอฟ้องขอให้ลงโทษนายบีในความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ฐานร่วมกันพยายามจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน และฐานร่วมกันนำสิ่งของต้องห้ามเข้ามาในเรือนจำ ศาลชั้นต้นรับฟังว่านายบีกระทำความผิดตามฟ้อง ศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดคงรับฟังข้อเท็จจริงว่านายบีกระทำความผิดตามฟ้องเช่นกัน แต่กรณีที่มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม นายบีฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา กรณีถือว่าฎีกาของนายบีได้รับอนุญาตให้ฎีกาเฉพาะความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเท่านั้น

              ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังยุติเบื้องต้นว่า ขณะเกิดเหตุนายบีเป็นหัวหน้าคลังสินค้าของบริษัทแลคตาซอย จำกัด สาขานครศรีธรรมราช และพักอาศัยอยู่กับครอบครัวที่อาคารคลังสินค้าเพียงครอบครัวเดียว วันเกิดเหตุมีพนักงานคลังสินค้าสี่คนไม่รวมจำเลย ร่วมกันนำนมถั่วเหลืองยี่ห้อแลคตาซอยชนิดกล่อง ขนาด 300 ซีซี จำนวน 200 ลัง ลังละ 6 แพ็ค แพ็คละ 6 กล่อง ไปส่งที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชตามคำสั่งซื้อของร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขังภายในเรือนจำ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบเมทแอมเฟตามีนและสิ่งของต้องห้ามของกลางตามฟ้องรวม 10 รายการ ซุกซ่อนอยู่ในกล่องนม 10 กล่อง และมีการดำเนินคดีแก่นายบีในเวลาต่อมา นายบีเข้ามอบตัวให้การต่อสู้คดี

              มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของนายบีว่า นายบีกระทำความผิดตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์หรือไม่ ได้ความจากทางนำสืบของนายเอ โดยเฉพาะจากนางสวย ได้แจ้งว่าปกตินายวุฒิต้องเป็นคนไปส่งแต่ไม่ได้ไปส่งและสินค้าก็มิได้นำส่งในวันนั้น หลังเกิดเหตุก็ได้ความจากร้อยตำรวจตรีธนกฤต ตรวจพบนามบัตรของนายวุฒิบรรจุอยู่ และกล่องนมถั่วเหลืองแกะออกมาจากแพ็คอีกจำนวนหนึ่งที่ระบุวันผลิตวันเดียวกับกล่องนมถั่วเหลืองที่พบของกลางวางอยู่ใกล้ๆกันภายในคลังสินค้า ประกอบกับได้ความจากทางนำสืบของนายเอและนายบีเจือสมกันว่า ผู้ถือกุญแจปิดเปิดคลังสินค้าไม่ใช่มีแต่นายบีคนเดียว เบื้องต้นได้รับการสอบสวนถ้อยคำนายบีในฐานะพยาน เพิ่งมาแจ้งข้อหาดำเนินคดีนายบีเป็นผู้ต้องหาภายหลังนานร่วมเดือน นายบีเข้ามอบตัวต่อสู้คดีตั้งแต่ต้น พยานนายเอแต่ละปากก็ไม่ได้เบิกความให้ถ้อยคำว่านายบีหรือผู้ใดกระทำความผิดหรือร่วมกระทำความผิดกับนายบี ลำพังแต่นายบีและครอบครัวนายบีพักอาศัยอยู่ในคลังสินค้าครอบครัวเดียว และมีสินค้านมถั่วเหลืองตั้งวางเตรียมที่จะนำส่งแล้วจะสรุปฟังว่านายบีกระทำความผิด ยังไม่ถนัดนัก นับว่าพยานหลักฐานยังมีข้อสงสัย ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่นายบี รับฟังได้ว่า นายบีมิได้กระทำความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และฐานร่วมกันพยายามจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน ส่วนความผิดฐานร่วมกันนำสิ่งของต้องห้ามเข้ามาในเรือนจำซึ่งมิใช่เป็นความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 1 ปี และศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุก 8 เดือน ซึ่งเป็นการแก้ไขเล็กน้อย แม้ความผิดฐานนี้ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่ง ก็ตาม แต่เนื่องจากเป็นข้อเท็จจริงอันเดียวเกี่ยวพันกัน และเมื่อศาลฎีกาเห็นว่านายบีมิได้กระทำผิด จึงให้ยกฟ้องนายเอปล่อยนายบีไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 215, 225 และพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 มาตรา 3 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของนายบีฟังขึ้น พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องนายเอ แต่ให้ริบของกลาง

            จะเห็นได้ว่า ในทางนำสืบไม่มีคู่ความฝ่ายใดให้ถ้อยคำว่านายบีหรือผู้ใดกระทำความผิดหรือร่วมกระทำความผิดกับนายบี ลำพังแต่นายบีและครอบครัวนายบีพักอาศัยอยู่ในคลังสินค้าครอบครัวเดียว และมีสินค้านมถั่วเหลืองตั้งวางเตรียมที่จะนำส่งแล้วจะสรุปฟังว่านายบีกระทำความผิดไม่ได้ นับว่าพยานหลักฐานยังมีข้อสงสัย ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่นายบี จึงให้ยกฟ้องนายเอปล่อยนายบีไป
            (อ้างอิง ฎ : 2351/2562)

รวมสาระที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับ #ทนายเล่าเรื่อง มาให้ชมกัน

ติดต่อ ปรึกษาทนาย หรือ จ้างทนาย คลิก!

บทความกฎหมายล่าสุด