ลูกจ้างรับเงินแล้วไม่คืนนายจ้าง นายจ้างฟ้องเรียกคืนได้!!

ลูกจ้างรับเงินของลูกหนี้ตามหน้าที่แทนนายจ้าง
แต่ไม่นำเงินมาส่งมอบให้นายจ้าง
ซึ่งลูกจ้างไม่มีสิทธิยึดทรัพย์ของนายจ้างไว้
นายจ้างสามารถฟ้องได้ไม่ คดีขาดอายุหรือเปล่า

ลูกจ้างรับเงินแล้วไม่คืนนายจ้าง นายจ้างฟ้องเรียกคืนได้!!

            นายเอฟ้องว่า นายบีเป็นลูกจ้างบริษัทนายเอ ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนในการรับเงินค่าเช่าซื้อจากลูกหนี้ของนายเอ แล้วมีหน้าที่ต้องนำส่งมอบคืนให้นายเอ โดยมีนายซี เป็นผู้ค้ำประกันยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกับนายบี นายบีจงใจไม่นำเงินค่างวดเช่าซื้อรถที่ลูกหนี้ของนายเอนำมาชำระจำนวน 55,838 บาทส่งมอบคืนให้นายเอ ต่อมานายบี ได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้แก่นายเอ แต่เมื่อครบกำหนดเวลาตามหนังสือรับสภาพหนี้ นายบี ผิดนัดไม่ชำระหนี้ให้นายเอ ขอให้บังคับทั้งสองร่วมกันชำระหนี้เงินและดอกเบี้ยจำนวน 61,628 บาท แก่นายเอพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของจำนวนเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ นายบีและนายซีให้การทำนองเดียวกันว่า นายซีทำสัญญาค้ำประกันนายบี และนายบีได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้แก่นายเอจริง นายบีไม่เคยผิดสัญญาตามหนังสือรับสภาพหนี้ฟ้องของนายเอ ให้นายบีและนายซีรับผิดฐานละเมิดมีอายุความ 1 ปีและขาดอายุความแล้ว นายเอบรรยายฟ้องในส่วนที่เกี่ยวกับหนังสือรับสภาพหนี้ไม่ชัดแจ้งเป็นฟ้องเคลือบคลุม ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยาน และวินิจฉัยว่าคดีนายเอขาดอายุความ พิพากษายกฟ้องนายเอ

           นายเออุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี นายบีและนายซีทั้งสองฎีกา
           ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฟ้องนายเอขาดอายุความหรือไม่ เห็นว่าหากพิจารณาแต่มูลหนี้อันเกิดจากละเมิดอาจขาดอายุความตามที่นายบีและนายซีฎีกาได้ เพราะการที่นายบีทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้ แต่คดีนี้นายเอฟ้องว่า นายบี เป็นลูกจ้างนายเอ ทำงานในตำแหน่งพนักงานเร่งรัดติดตามหนี้สินจากลูกหนี้เป็นตัวแทนในการรับเงินค่าเช่าซื้อรถ นายบีรับเงินค่าเช่าซื้อรถจากลูกหนี้ของนายเอ แล้วจงใจไม่นำเงินส่งมอบคืนให้นายเอ ส่วนนายซี เป็นผู้ค้ำประกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในการปฏิบัติหน้าที่ของนายบี ตามคำฟ้องนายเอเห็นได้ว่าเมื่อนายบี รับเงินจากลูกหนี้ของนายเอตามหน้าที่แล้ว ไม่ส่งมอบเงินดังกล่าวให้แก่นายเอ การกระทำของนายบี ก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายเอ ย่อมเป็นทั้งละเมิดและปฏิบัติผิดหน้าที่ตัวแทนตามสัญญาจ้าง นายเอย่อมมีสิทธิที่จะเรียกค่าเสียหายในการละเมิด หรือติดตามเอาทรัพย์ของนายเอที่นายบีเอาไปได้ การฟ้องของนายเอจึงเป็นการใช้สิทธิติดตามเอาทรัพย์ของนายเอคืนจากนายบี ผู้ไม่มีสิทธิยึดถือทรัพย์ของนายเอไว้ตามปพพ.มาตรา 1336 ซึ่งไม่มีกำหนดเวลาให้เจ้าของทรัพย์ใช้สิทธิเช่นนี้ เว้นแต่จะถูกจำกัดด้วยอายุความได้สิทธิ เมื่อไม่ปรากฏว่านายเอถูกกำจัดด้วยอายุความได้สิทธิ นายเอมีสิทธิฟ้องเรียกทรัพย์คืนจากนายบี ได้แม้จะเกิน 1 ปี คดีนายเอจึงไม่ขาดอายุความตามข้อที่อ้างในฎีกาของนายบีและนายซี และการที่นายซี ค้ำประกันนายบี มูลหนี้ของนายซี ก็เกิดจากสัญญาหาได้เกิดจากมูลละเมิดอันจะมีอายุความ 1 ปีไม่ เมื่อมูลหนี้ของนายบี ไม่ขาดอายุความข้ออ้างของนายซี ที่ต่อสู้ว่าขาดอายุความจึงฟังไม่ขึ้น ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาของนายบีและนายซีฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน.

          จะเห็นได้ว่า นายบีเป็นลูกจ้างนายเอ ทำหน้าที่เป็นตัวแทนรับเงินค่าเช่าซื้อรถจากลูกหนี้ของนายเอ ซึ่งนายบีรับเงินตามหน้าที่แล้ว ไม่ส่งมอบให้แก่นายเอ ย่อมเป็นทั้งละเมิดและปฏิบัติผิดหน้าที่ตัวแทนตามสัญญาจ้าง นายเอย่อมมีสิทธิที่จะเรียกค่าเสียหายในการละเมิดหรือติดตาม เอาทรัพย์ของนายเอที่นายบีเอาไปได้ ดังนั้นโจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกทรัพย์คืนจากนายบีได้ แม้จะเกิน 1 ปี นายซีค้ำประกันนายบี มูลหนี้ของนายซีเกิดจากสัญญา หาได้เกิดจากมูลละเมิดอันจะมีอายุความ 1 ปีไม่ คดีนายเอจึงไม่ขาดอายุความนั่นเอง
        (อ้างอิง : ฎ.2185/2533)

รวมสาระที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับ #ทนายเล่าเรื่อง มาให้ชมกัน

ติดต่อ ปรึกษาทนาย หรือ จ้างทนาย คลิก!

บทความกฎหมายล่าสุด