ฟ้องเรียกค่าทดแทนได้หรือไม่???

#ทนายเล่าเรื่อง

หลายครั้งที่สามีภริยากันต้องผิดใจกัน 

เพราะอีกฝ่ายมีชู้ จึงต้องเลิกรากันไปและฟ้องหย่าฟ้องชู้กันเกิดขึ้น

แต่เมื่อข้อเท็จในเรื่องนี้ สองสามีภริยามีความเข้าใจกันได้

การเรียกค่าทดแทนจากชู้ดังกล่าวจะมีผลเป็นอย่างไร

ฟ้องเรียกค่าทดแทนได้หรือไม่???

           #ทนายเล่าเรื่อง ในวันนี้ผมขอหยิบยกประเด็นที่มีการฟ้องหย่าและฟ้องชู้เพื่อเรียกค่าทดแทน และปรากฎว่า ในระหว่างการพิจารณาคดีระหว่างนายหนึ่งและนางสอง ได้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาลชั้นต้น ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรนั้น ลองมาศึกษาไปพร้อมกันได้ครับ

             เรื่องมีอยู่ว่า….หลังจากที่นายหนึ่งฟ้องนางสองและนายสามไป ในกรณีฟ้องหย่าและฟ้องชู้เพื่อเรียกค่าทดแทน ศาลชั้นต้นพิพากษาให้นายหนึ่งและนางสองหย่าขาดจากกันให้นายสาม ชำระเงิน 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 10 กรกฎาคม 2550) เป็นต้นไปจนกว่านายสามจะชำระเสร็จแก่นายหนึ่งกับให้นางสองและนายสามร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนนายหนึ่ง โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท นางสองและนายสามอุทธรณ์ และฎีกา

            ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา นายหนึ่งและนางสอง ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันที่ศาลชั้นต้น และศาลชั้นต้นตรวจสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วไม่ขัดต่อกฎหมายแล้วส่งสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาลฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ฉบับลงวันที่ 24 มีนาคม 2558 ได้ความว่า นายหนึ่งกับนางสองตกลงกันว่า ” ข้อ 1 จะขออยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาต่อไป ไม่ประสงค์ที่จะหย่าขาดจากกัน ข้อ 2 อุปการะเลี้ยงดูบุตรร่วมกัน ข้อ 3 ไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ต่อกันและข้อ 4 ให้ค่าธรรมเนียมทั้งสามชั้นศาลเป็นพับ” คดีนี้นายหนึ่งฟ้องขอหย่ากับนางสอง และขอให้นายสามชำระค่าทดแทนแก่นายหนึ่ง นางสองให้การว่า นางสองไม่ได้เป็นชู้กับนายสาม แต่ถูกนายสามข่มขืนกระทำชำเราขอให้ยกฟ้อง นายสามให้การว่า นายหนึ่งกับนางสองร่วมกันวางแผนทำลายชื่อเสียงนายสามขอให้ยกฟ้อง ดังนั้น สัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวยุติข้อพิพาทในคดีระหว่างนายหนึ่งกับนางสองสามารถบังคับได้ตามกฎหมาย โดยไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อรูปคดีของนายสาม ศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นได้

              ศาลฎีกาเห็นสมควรหยิบยกปัญหาขึ้นวินิจฉัยต่อไปว่านายสาม ต้องรับผิดชำระค่าทดแทนแก่นายหนึ่งหรือไม่ เห็นว่า ตามป.พ.พ.มาตรา 1523 วรรคสอง สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้ แต่ข้อเท็จจริงปรากฏตามสัญญาประนีประนอมยอมความฉบับลงวันที่ 25 มีนาคม 2558 ระหว่างนายหนึ่งกับนางสอง ข้อ 1 ว่า “นายหนึ่งเข้าใจเกี่ยวกับนางสองเป็นอย่างดีแล้วว่านางสองไม่มีพฤติกรรมไปในทางชู้สาวกับนายสามและมิได้เป็นผู้ประพฤติชั่ว” ซึ่งการกระทำในทำนองชู้สาวนั้นต้องมีผู้กระทำสองฝ่าย เมื่อฝ่ายหญิง คือนางสองไม่มีพฤติกรรมในทางชู้สาวกับนายสามแล้ว ย่อมแสดงว่าฝ่ายชายคือนายสาม ไม่มีการกระทำในทำนองชู้สาวกับนางสองด้วย นายสามจึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าทดแทนแก่นายหนึ่ง

               พิพากษาแก้เป็นว่า ให้คดีระหว่างนายหนึ่งและนางสอง เสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ฉบับลงวันที่ 24 มีนาคม 2558 และให้ยกฟ้องนายหนึ่งสำหรับนายสาม ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ

              จะเห็นได้ว่า นางสองไม่มีพฤติกรรมไปในทางชู้สาวกับนายสาม และมิได้เป็นผู้ประพฤติชั่วและจะขออยู่ร่วมกันฉันสามีภริยา ไม่ประสงค์จะหย่าขาดจากกันกับนายหนึ่ง ตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว ทำให้นายสามไม่ต้องรับผิดชำระค่าทดแทนตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง แก่นายหนึ่งนั้นเอง
              (อ้างอิง : ฎ.1899/2559)

รวมสาระที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับ #ทนายเล่าเรื่อง มาให้ชมกัน

ติดต่อ ปรึกษาทนาย หรือ จ้างทนาย คลิก!

บทความกฎหมายล่าสุด