ดึงแขนผู้หญิงลากเข้าโรงแรม ถ้าไม่มีใครเห็น เป็นอนาจารหรือไม่?

ดึงแขนผู้หญิงลากเข้าโรงแรม ถ้าไม่มีใครเห็น เป็นอนาจารหรือไม่?

ดึงแขนผู้หญิงลากเข้าโรงแรม ถ้าไม่มีใครเห็น เป็นอนาจารหรือไม่?

                        #ทนายเล่าเรื่อง ในวันนี้เป็นคดีเกี่ยวกับการกระทำอนาจารซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา โดยเนื้อหาอาจจะมีความรุนแรง ผมนำเรื่องนี้มาเล่าในเชิงข้อกฎหมายเท่านั้นว่าศาลมองเรื่องแบบนี้ว่าอย่างไร ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี หรือหาช่องทางให้ผู้กระทำความผิดแต่อย่างใดนะครับ ถ้าพร้อมกันแล้ว เราไปเริ่มกันเลยครับ

                          คดีนี้ นายโพกับนางริด ทำงานเป็นตำรวจที่สถานีตำรวจเดียวกัน พึ่งจะรู้จักกันมาประมาณ 20 วัน ซึ่งในวันเกิดเหตุนายโพกับนางริดไปทานอาหารและดื่มเบียร์ด้วยกันตอนช่วง 20.00 น.หรือ 2 ทุ่ม ลากยาวไปจนกลับบ้านกันเวลาประมาณตี 1 โดยที่นายโพขับรถกระบะจะไปส่งนางริดที่บ้าน แต่ระหว่างขับรถ นายโพบอกว่าเมามาก ขับรถไม่ไหว สงสัยต้องพักที่โรงแรมก่อน ขณะที่กำลังจะเลี้ยวรถเข้าโรงแรม นางริดได้ขอลงจากรถเพราะกลัวว่านายโพจะทำอะไรไม่ดีกับตน พอเปิดประตูจะลง นายโพก็ได้ดึงแขนและกอดเอวนางริดไว้ แต่นางริดก็ดิ้นสู้จนหลุดและลงมาจากรถได้ แต่สุดท้ายนายโพก็เอื้อมไปดึงแขนนางริดและดึงกลับขึ้นมาบนรถ

                          จากนั้นนายโพก็ขับรถเข้าไปในโรงแรมและบอกพนักงานว่าขอเปิดห้องพัก 1 ห้องโดยพนักงานโรงแรมยืนห่างออกไปประมาณ 3 เมตร แต่มีแสงไฟพอที่จะมองเห็นได้นายโพกับนางริดได้ นายโพก็จับมือนางริดไว้ แต่นางริดพูดกับพนักงานโรงแรมไปว่า ไม่ให้เปิดและยังคงดิ้นเพื่อจะออกจากรถให้ได้ นายโพทนไม่ไหวที่นางริดดิ้นไม่ยอมหยุดจึงได้ลงมาจากรถและกระชากแขนนางริดตรงไปที่ห้องพักเพื่อจะข่มขืนนางริด แต่ห้องก็ล็อกอยู่ พนักงานโรงแรมก็ไม่เปิดห้องให้เพราะเห็นว่านางริดไม่ยินยอม สุดท้ายนายโพก็ดึงนางริดกลับขึ้นรถและขับรถออกไปจากโรงแรม ซึ่งในระหว่างทางนางริดก็หาวิถีทางเพื่อให้ตนเองหนีออกมาจากสถานการณ์นี้ได้ สุดท้ายนางริดก็หนีออกมาจากรถของนายโพได้ ประจวบเหมาะกับมีแท็กซี่ขับมาพอดี เมื่อนางริดออกมาจากรถได้จึงรีบขึ้นแท็กซี่ตรงกับบ้านทันที

                          คดีนี้ ศาลมองว่า นางริด เป็นตำรวจ มีอาชีพที่มั่นคง ถ้าเรื่องที่ฟ้องไม่เป็นความจริง คงไม่นำเรื่องแบบนี้ไปเล่าให้คนอื่นฟัง อีกทั้งยังมีพนักงานโรงแรมกับคนขับแท็กซี่มาเป็นพยานเบิกความยืนยันข้อเท็จจริงข้างต้นต่อศาลด้วย

                          การทำอนาจาร มีความหมายว่า เป็นการกระทำต่อเนื้อตัวบุคคลที่ไม่สมควรทางเพศ ซึ่งมิได้หมายความเฉพาะการประเวณีหรือความรักใคร่เท่านั้น แต่รวมถึงการกระทำให้อับอายขายหน้าในทางเพศด้วย การที่นายโพกอดเอว ดึงแขน และจับมือนางริด จึงเป็นการกระทำอนาจารต่อนางริดโดยใช้กำลังประทุษร้าย แม้บางตอนนายโพจะได้กระทำไปขณะอยู่บนรถกระบะ แต่การที่นายโพจับมือและดึงแขนนางริดให้เข้าไปในห้องพักของโรงแรมขณะที่อยู่ต่อหน้าพนักงานเช่นนั้น จึงเป็นการกระทำโดยเปิดเผยในที่ที่อาจมีคนเห็นได้ แม้จะไม่มีใครเห็นในขณะนั้นก็เป็นธารกำนัลแล้ว เพราะการกระทำต่อหน้าธารกำนัลไม่ได้หมายความเฉพาะแต่กระทำให้บุคคลอื่นได้เห็นจริงๆ เท่านั้น เพียงแค่กระทำในลักษณะที่เปิดเผยให้บุคคลอื่นสามารถเห็นได้ ก็เป็นต่อหน้าธารกำนัลแล้ว

                            เพราะฉะนั้น คดีนี้ ถ้าตอนที่ลากเข้าโรงแรมไป ไม่มีพนักงานโรงแรมอยู่ แต่ภายในโรงแรมยังเปิดอยู่ตามปกติ แค่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นพอดี ถึงจะไม่มีใครเห็น แบบนี้ก็ถือเป็นการกระทำต่อธารกำนัลแล้วนั่นเองครับ
                            อ้างอิง : ฎ.4836/2547
 

รวมสาระที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับ #ทนายเล่าเรื่อง มาให้ชมกัน

ติดต่อ ปรึกษาทนาย หรือ จ้างทนาย คลิก!

บทความกฎหมายล่าสุด