คดียาเสพติด
รวมบทความและวิเคราะห์ในเชิงกฎหมายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ คดียาเสพติด โดยทีมทนายความของ MKC Legal Group
11
ครอบครองไว้เพื่อเสพ พิสูจน์อย่างไร
ในคดียาเสพติด กฎหมายกำหนดความผิดเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย ครอบครอง ไปจนถึงการเสพ แต่ที่เป็นคดีเยอะๆ ในปัจจุบันสามารถแยกได้เป็น 2 ประเภท คือ ครอบครองไว้เพื่อเสพ และ ครอบครองไว้เพื่อจำหน่าย วันนี้ผมจะพามาดูที่เรื่องการครอบครองเพื่อเสพครับว่ามันคืออะไร แล้วพอเป็นคดีจริง ๆ ขึ้นมา แต่เรากลับโดนข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่าย แบบนี้เราต้องพิสูจน์อย่างไรเพื่อให้เหลือเพียงข้อหาครอบครองไว้เพื่อเสพจริง ๆ ไม่ใช่เลยเถิดไปเป็นครอบครองเพื่อจำหน่าย ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยครับ
12
คดีฟอกเงินยาเสพติดคืออะไร และมีโทษอย่างไร
พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มีขึ้นเพื่อมาใช้บังคับกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดียาเสพติดได้โดยตรง ซึ่งผู้กระทำความผิดพยายามปกปิดหรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวพันกับการกระทำความผิด โดยฟอกเงินจากแหล่งฟอกเงินภายในประเทศและภายนอกประเทศ เพื่ออาศัยสถาบันการเงินหรือหน่วยงานบางแห่งเป็นเครื่องมือทำให้เงินหรือทรัพย์สินให้เป็นสิ่งที่ได้มาอย่างสุจริตเสียก่อน เพื่อให้สะดวกต่อการนำไปใช้หมุนเวียนในการขยายกระบวนการค้ายาเสพติดหรืออาชาญกรรมอื่น ดังนั้น การดำเนินคดีความผิดฐานฟอกเงินจะเป็นการป้องกันและปราบปรามมิให้มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด เพื่อให้สามารถติดตามเงินที่ผู้กระทำความผิดได้ไป คืนให้กับผู้เสียหายได้
13
ผู้เสพคือผู้ป่วย ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดคืออะไร
นโยบาย “ผู้เสพคือผู้ป่วย” ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด คืออะไร โดยหลักการแล้วผู้เสพยาเสพติด มีสภาพเป็นผู้ป่วยอย่างหนึ่ง มิใช่อาญชากรปกติ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าครอบครองเพื่อเสพ หากผู้เสพสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษา และดำเนินการเข้ารับการบำบัดจนครบถ้วน ก็จะไม่มีความผิด ทั้งนี้ บทลงโทษทางกฎหมายยังคงมีอยู่ ซึ่งกฎหมายนี้มีเจตนารมย์ที่จะช่วยเหลือ ให้เข้ารับบำบัดโดยไม่เอาผิดทางอาญาหรือการลดการเป็นอาชญากรรมของผู้เสพ
14
ครอบครองเพื่อจำหน่าย ถูกยกเลิกตามประมวลกฎหมายยาเสพติด จริงหรือไม่ อย่างไร
ตามกฎหมายเดิม คือ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ถูกยกเลิกและมีการออกกฎหมายใหม่ คือ ประมวลกฎหมายยาเสพติด มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564 มีข้อสังเกตบางประการเรื่อง